Staff Interview ฝ่ายจัดซื้อ
งานของ ซันโค เอเชีย
จะไม่ใช่แค่งานรูทีนเท่านั้นค่ะ
เมลาณี โชคอรพันธ์
เนื้อหางาน
หน้าที่ที่สำคัญของเราคือการลดค่าใช้จ่ายของบริษัทให้ได้มากที่สุด และการจัดซื้อจัดหาของที่มีคุณภาพดี
ปัจจุบันทำงานอยู่ฝ่ายจัดซื้อค่ะ งานของฝ่ายจัดซื้อนั้น นอกจากงานทั่วๆไป เช่น การซื้อของ หาซัพพลายเออร์แล้ว หน้าที่ของเราคือต้องคิดอยู่เสมอว่าจะซื้อของอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องหาวิธีลดค่าใช้จ่ายของบริษัทให้ได้มากที่สุด แล้วก็ต้องซื้อของที่มีคุณภาพดีด้วย โดยของที่ซื้อก็จะมีตั้งแต่ของใช้ในสำนักงาน ของจิปาถะ ไปจนถึงวัตถุดิบต่างๆที่ใช้ในการผลิตของทางฝั่งโรงงานค่ะ ซึ่งในส่วนของฝั่งโรงงานก็จะมีเจ้าหน้าที่จัดซื้อของเขาอยู่แล้ว แต่เราก็เข้าไปช่วยดูในส่วนที่ทางโรงงานอาจจะไม่มีเวลาทำหรือทำได้ยาก อย่างเช่น กิจกรรม Cost down การลด Cost หรือเข้าไปรีวิวว่า Parts ตัวไหนเราสามารถซื้อจากซัพพลายเออร์เจ้าอื่นที่ราคาถูกกว่า คุณภาพดีกว่าในปัจจุบันได้หรือเปล่า นอกจากนี้เราพยายามจะหาอะไรใหม่ๆด้วยค่ะ งานของฝ่ายจัดซื้อไม่ใช่แค่การซื้อของเท่านั้น แต่ต้องเป็นงานที่ทำกำไรให้บริษัทได้ด้วยค่ะ
ความท้าทาย
ได้รู้จักความสามารถของตัวเองในมุมอื่นๆมากขึ้น ได้ลองทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
รู้สึกว่าได้ Challenge ความสามารถตัวเองค่ะ เพราะว่าแต่เดิมเราเริ่มมาจากการทำงานฝ่ายเลขานุการ จากนั้นก็ได้รับโอกาสจากประธานให้ลองมาทำในฝ่ายจัดซื้อ พอได้มาลองทำแล้ว ก็รู้สึกว่าได้รู้จักความสามารถของตัวเองในมุมอื่นๆมากขึ้น
ได้ลองทำอะไรหลายๆอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน รู้สึกได้ Challenge ตัวเองว่าจะทำได้ไหม แล้วอีกอย่างคือได้ใช้ทักษะภาษาญี่ปุ่นในหลายๆ ด้านมากขึ้นค่ะ
สิ่งที่ชอบมากที่สุดในงาน จริงๆชอบการได้พูดคุยกับคนอื่นค่ะ การออกไปข้างนอกก็ดีค่ะ เหมือนเราได้ไปเห็นอะไรใหม่ๆ ได้ไปเยี่ยมบริษัทของซัพพลายเออร์ ได้ไปเห็นว่าที่อื่นเค้าทำงานกันยังไง ได้เจอคนหลากหลายก็เหมือนได้เห็นมุมมองความคิดของแต่ละคน และได้เรียนรู้วิธีการทำงานของคนอื่นๆค่ะ ชอบที่สุดตรงที่งานไม่ได้จำเจค่ะ งานของทางบริษัทซันโค อิเล็กทรอนิกส์ เอเชีย จะไม่ได้เป็นงานรูทีน เช่น เช้ามาเริ่มจากออก PO, เช็ค PO, ตาม PO จะไม่ใช่แค่นั้นค่ะ แต่ว่างานของเราคือจะต้องคอยคิดว่าปัจจุบันสิ่งที่ทำอยู่มีปัญหาตรงไหนบ้าง เราจะหาปัญหาตรงไหนเจอบ้าง ระบบหรือวิธีการที่มีอยู่ เราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นยังไงได้บ้าง เพราะนอกจากความรอบคอบในการวิเคราะห์งานแล้ว เราต้องมีทักษะในการแก้ไขปัญหาด้วย ต้องมีความคิดที่อยากจะพัฒนาปรับปรุงอยู่เสมอ ซึ่งคิดว่าเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของการทำงาน
ที่ผ่านมาเราทำงานเป็นล่ามแปลภาษามาตลอด เป็นเรื่องของการใช้ภาษา และการทำความเข้าใจในเนื้อหาที่เราจะต้องแปล คิดว่าตรงนี้อาจจะเป็นโชคดีอย่างนึงที่เรามีโอกาสไปเป็นล่ามในบริษัทใหญ่ๆ ก็เลยทำให้เราได้ความรู้จากหลากหลายแผนก ซึ่งความรู้ตรงนี้เราสามารถนำมาใช้ในงานนี้ได้ด้วย อย่างเราเคยไปแปลในฝ่ายจัดซื้อมา เราก็จะรู้พวกคำศัพท์ รู้ Process แล้วพอเราได้มาทำเอง เราเริ่มจากศูนย์เพราะไม่เคยทำมาก่อน แต่ว่าพื้นฐานตรงนั้นก็ช่วยเราได้ พอเราคุยกับทางฝั่งโรงงานเขาก็จะพูดเป็นคำศัพท์ Purchase จ๋าเลย เราก็ยังเข้าใจ แล้วก็โชคดีที่อย่างเวลาคุยกับซัพพลายเออร์ แล้วเขาพูดถึง Parts หรือ Process ของการทำ Parts เราก็รู้จักเพราะเราก็เคยแปลในส่วนของพวกนั้นมาด้วย ก็เลยรู้สึกว่ามันค่อนข้างช่วยได้ และเราก็ได้ Challenge อะไรหลายๆอย่างในการทำฝ่ายจัดซื้อด้วยค่ะ รู้สึกว่าต้องมีทักษะในการพูดคุย เจรจาต่อรองค่ะ
สภาพแวดล้อมในการทำงาน
สามารถปรึกษาหัวหน้า ไม่ว่าจะเป็นประธานบริษัท หรือรุ่นพี่และเพื่อนร่วมงานได้ตลอด มีอะไรก็สามารถพูดคุยและขอคำแนะนำได้
การทำงานที่บริษัทนี้ ไม่ใช่เฉพาะแค่แผนกจัดซื้อ แต่รู้สึกว่าที่นี่ค่อนข้างให้อิสระทางความคิดกับพนักงานทุกคนค่ะ บริษัทจะไม่ได้บังคับว่าต้องทำแบบนี้นะ 1234
แต่เหมือนทางบริษัทจะให้ทุกคนได้คิดเองว่างานที่ได้รับมอบหมายมา เราจะทำยังไง ทำวิธีไหนให้บรรลุเป้าหมาย ให้มีผลงานออกมา แต่ว่าระหว่างทางก็ยังสามารถปรึกษาหัวหน้า ไม่ว่าจะเป็นประธานบริษัท หรือรุ่นพี่และเพื่อนร่วมงานได้ตลอด มีอะไรก็สามารถพูดคุยและขอคำแนะนำได้ รู้สึกว่าเป็นการทำงานที่ยากและท้าทาย
แต่ว่าบรรยากาศอบอุ่น ก็เลยไม่รู้สึกกดดันมาก แล้วก็สนุกกับการทำงานค่ะ
ที่สำคัญเรามองเห็นภาพในอนาคตของบริษัท ของงานที่เราทำ เรามีเป้าหมายที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งในอนาคตบริษัทมีเป้าหมายว่าจะทำการซื้อ Material ในการผลิตเองค่ะ ซื้อมาเก็บใน Warehouse ของเราเอง และกระจายวัตถุดิบให้กับบริษัทในเครือ ในการที่จะทำได้เราก็ต้องมีการขอใบรับรอง ขึ้นทะเบียนต่างๆ ต้องมีการหา Warehouse และสร้างระบบ ยิ่งไปกว่านั้น นอกจาก Parts ที่เราใช้ในปัจจุบันแล้ว เราก็อยากจะหาสิ่งใหม่ๆ หาธุรกิจใหม่ๆให้กับบริษัทที่ไม่ใช่แค่งานชุดสายไฟเท่านั้น แต่ทำให้เป็นบริษัท Trading ซื้อมาขายไป และอยากให้ผลิตภัณฑ์นั้นเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกค่ะ เป้าหมายค่อนข้างท้าทาย แต่ก็อยากจะพยายามทำให้ดีที่สุด เพื่อให้ภาพนั้นเกิดขึ้นได้จริงค่ะ
อยากบอกว่าบริษัทนี้น่าจะตรงกับเด็กรุ่นใหม่หลายๆคนค่ะ เพราะรู้สึกว่าเด็กรุ่นใหม่เขาจะมีความคิดเป็นของตัวเอง อาจจะไม่ชอบทำอะไรที่อยู่ในกรอบมาก ที่นี่ก็อาจจะเหมาะ เพราะว่าค่อนข้างที่จะเปิดโอกาสให้ได้คิด ให้ได้ลองทำ แล้วก็มีคนคอยให้คำแนะนำว่าอันไหนถูกอันไหนผิด อันไหนควรทำยังไง เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาความสามารถตัวเอง อยากจะเพิ่มทักษะของตัวเองให้สูงขึ้น โดยที่ไม่ทำอะไรซ้ำๆเหมือนเดิมทุกวันค่ะ นอกจากนั้น ยังเหมาะกับคนที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร พอเข้ามาแล้วก็จะได้ลองทำนั่นทำนี่ เพราะทางผู้บริหารก็จะให้โอกาสได้ทำหลายๆอย่าง พอได้ทำแล้วก็จะได้รู้ว่าเราชอบอันนี้ ไม่ชอบอันนี้ ซึ่งบริษัทก็ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นที่จะปรับองค์กรปรับ Organize ให้ได้ค่ะ